ความต้องการเกลือพุ่งสูง! หลังชาวเกาหลีใต้กังวลญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนลงทะเล
ชาวเกาหลีใต้หลายคนกำลังซื้อเกลือและอาหารทะเลตุนไว้ที่บ้าน ขณะที่ร้านค้าเองก็สต็อกสินค้าเพราะกลัวว่าจะเกิดการขาดแคลน หลังใกล้ถึงเวลาที่ญี่ปุ่นจะปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเลตามแผนที่ประกาศไว้
แม้ว่าหน่วยงานประมงของเกาหลีใต้จะให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความพยายามในการติดตามว่าในนาเกลือมีสารกัมมันตรังสีเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมถึงคงมาตรการห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากน่านน้ำใกล้ฟุกุชิมะ แต่ประชาชนบางส่วนก็ยังคงซื้อของตุนไว้เกินจำเป็น เนื่องจากกังวลถึงอันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น
“เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น” วุ่น หลังไซเรนเตือนภัยจรวดเกาหลีเหนือ คำพูดจาก เว็บตรง
ผู้นำเกาหลีใต้เยือนญี่ปุ่น เปิดฉากใหม่ความสัมพันธ์
โดยพัค ยังซิล ชาวเกาหลีใต้วัย 67 ปี บอกว่า กังวลว่าการปล่อยน้ำเสียจะไม่ได้แค่ทำให้มหาสมุทรปนเปื้อนและนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ แต่ยังทำให้ราคาเกลือและอาหารทะเลสูงขึ้นด้วย ชีวิตฉันซึ่งเป็นแม่บ้านจะยากและลำบากขึ้นมาก
ด้านฮยอน ยงกิล เจ้าของร้านขายส่งเกลือในกรุงโซล บอกว่า ยอดขายเกลือไม่กี่วันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 40-50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ราคาก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ปกติในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน เราขายเกลือไม่ได้มากขนาดนั้น แต่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ยอดขายกลับเพิ่มขึ้น 40-50 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับปีที่แล้ว
ทั้งนี้ข้อมูลจากกระทรวงมหาสมุทรและการประมงของเกาหลีใต้ระบุว่า ราคาเกลือทะเลในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วเกือบ 27 เปอร์เซ็นต์ จากสองเดือนก่อน อย่างไรก็ตามกระทรวงระบุว่าเหตุผลที่ราคาเกลือสูงขึ้นเป็นเพราะสภาพอากาศที่ไม่ดีในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาและการผลิตที่ลดลง มากกว่าที่จะเป็นเพราะการซื้อกักตุนจากความตื่นตระหนก
อย่างไรก็ตามเกลือทะเลกลายเป็นหัวข้อติดเทรนด์บนเว็บไซต์ชอปปิงออนไลน์ที่ดูแลโดยสมาพันธ์สหกรณ์ประมงแห่งชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่โพสต์บนสังคมออนไลน์หลายๆ โพสต์พูดถึงการซื้อเกลือจำนวนมากๆ และชวนให้คนอื่นๆ ทำตาม จนกลายเป็นกระแสไวรัล
ส่วนราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิตเกลือและอาหารทะเลในเกาหลีใต้ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น บริษัทอินซานกา ซึ่งเป็นเอสเอ็มอีที่เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์เกลือ ราคาหุ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น 28 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทซาโจ ผู้ผลิตทูน่ากระป๋อง ก็เพิ่มขึ้นกว่า 6 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะดำเนินการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่มานานจากกรณีพิพาทในอดีต แต่แผนของญี่ปุ่นที่จะปล่อยน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะกว่า 1 ล้านตัน ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงสำหรับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างเกาหลีใต้ โดยผลสำรวจเมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า ชาวเกาหลีใต้มากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วยกับแผนของญี่ปุ่น ขณะที่ 7 ใน 10 บอกว่า จะทานอาหารทะเลน้อยลง หากญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนตามแผน
ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิในปี 2011 ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะจนเกิดเป็นหายนะครั้งใหญ่ ญี่ปุ่นต้องรวบรวมและบำบัดน้ำที่ใช้ในการหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ ซึ่งปนเปื้อนกัมมันตรังสี กว่า 1.3 ล้านตัน และเก็บไว้ในแท็งก์จำนวนมาก ซึ่งญี่ปุ่นกำลังจะไม่มีที่จัดเก็บแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นจึงไม่มีทางเลือก นอกจากต้องปล่อยน้ำปนเปื้อนลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก และได้อนุมัติแผนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 เมษายน ปี 2021
โดยแผนการปล่อยน้ำปนเปื้อนจากฟุกุชิมะจะเป็นการค่อยๆ ปล่อยน้ำในช่วงเวลา 30 ปี แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าอาจใช้เวลานานกว่านั้น เนื่องจากปริมาณน้ำยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของญี่ปุ่นวิพากษ์วิจารณ์แผนดังกล่าวว่า เป็นการตัดสินใจฝ่ายเดียวและอันตราย โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนคนหนึ่งระบุว่า เป็นความเสี่ยงต่อมวลมนุษยชาติ พร้อมกับกล่าวหาญี่ปุ่นว่าใช้มหาสมุทรแปซิฟิกเป็นท่อระบายน้ำ ขณะที่เลขาธิการองค์กรการประชุมหมู่เกาะแปซิฟิก เรียกแผนดังกล่าวคือกล่องแพนโดร่าที่ใส่ความชั่วร้ายเอาไว้